เมนูนำทาง
ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด สมิท การบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ค.ศ. 1928ใน ค.ศ. 1928 คิงส์ฟอร์ด สมิท และชาลส์ อูล์มเดินทางมาถึงสหรัฐเพื่อหาเครื่องบินที่จะใช้บินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เซอร์ฮิวเบิร์ต วิลคินส์ นักสำรวจขั้วโลกชาวออสเตรเลียได้ขายเครื่องบินฟอกเกอร์ F.VII/3m ให้กับคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์ม พวกเขาตั้งชื่อเครื่องบินลำนี้ว่าเซาเทิร์นครอสส์[19]
เวลา 8:54 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1928[19] คิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือได้แก่ชาลส์ อูล์มชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นนักบินสำรอง และลูกเรือชาวอเมริกันอีกสองคนได้แก่เจมส์ วอร์เนอร์ ผู้ควบคุมวิทยุ และกัปตันแฮร์รี ลียอน ผู้นำทางและวิศวกรประจำเที่ยวบิน[20] รวมสี่คนบินออกจากโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อเริ่มบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรกไปยังออสเตรเลีย เส้นทางบินแบ่งเป็นสามระยะ ระยะแรกจากโอกแลนด์ไปยังฐานทัพอากาศวีลเลอร์ ใกล้เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย[21] มีระยะทาง 3,870 กิโลเมตร (2,400 ไมล์) ใช้เวลาบิน 27 ชั่วโมง 25 นาทีโดยไม่มีอุบัติการณ์ใด ๆ ระยะที่สองต้องบินขึ้นจากบาร์กคิงแซนส์บนเกาะคาไวที่อยู่ใกล้เคียงแทนเนื่องจากทางวิ่งที่วีลเลอร์ยาวไม่พอ ปลายทางของระยะที่สองได้แก่กรุงซูวา ประเทศฟีจี ซึ่งอยู่ห่างออกไป 5,077 กิโลเมตร (3,155 ไมล์) ใช้เวลาบิน 34 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งเป็นระยะที่ยากลำบากที่สุดเนื่องจากพวกเขาบินฝ่าพายุฝนฟ้าคะนองใกล้กับเส้นศูนย์สูตร[22] ระยะที่สามนั้นสั้นที่สุด โดยมีระยะทาง 2,709 กิโลเมตร (1,683 ไมล์) ใช้เวลาบิน 20 ชั่วโมงเพื่อข้ามชายฝั่งออสเตรเลียใกล้กับเมืองแบลลินา รัฐนิวเซาท์เวลส์[23][24][25] ก่อนจะหักขึ้นไปทางเหนือต่อไปอีก 170 กิโลเมตร (110 ไมล์) ไปถึงบริสเบน พวกเขาลงจอดเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 9 มิถุนายน ระยะทางบินโดยรวมประมาณ 11,566 กิโลเมตร (7,187 ไมล์) ที่ท่าอากาศยานอีเกิลฟาร์ม (ท่าอากาศยานแห่งเก่าซึ่งต่อมาถูกแทนที่โดยท่าอากาศยานบริสเบน) มีผู้คนมารอต้อนรับคิงส์ฟอร์ด สมิทและลูกเรือกว่า 26,000 คน พวกเขาได้รับการต้อนรับเฉกเช่นวีรบุรุษ[26][27][28][29]
หอภาพยนตร์และสื่อบันทึกเสียงแห่งชาติของประเทศออสเตรเลียมีภาพยนตร์ชีวประวัติของคิงส์ฟอร์ด สมิทชื่อ แอนแอร์แมนรีเมมเบอส์[30] และเทปบันทึกเสียงคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มเล่าเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางของพวกเขา[31]เก็บรักษาเอาไว้
ออสเตรเลียโพสต์ รัฐวิสาหกิจด้านไปรษณีย์ได้ออกแผ่นแสตมป์และแสตมป์ที่ระลึกซึ่งมีภาพของคิงส์ฟอร์ด สมิทและอูล์มใน ค.ศ. 1978 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของการบินครั้งนี้[32]
จีน แบตเทน หญิงสาวชาวนิวซีแลนด์เข้าร่วมงานเลี้ยงกับคิงส์ฟอร์ด สมิทหลังเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกและกล่าวกับเขาว่าเธออยากจะหัดขับเครื่องบินบ้าง คิงส์ฟอร์ด สมิทให้คำแนะนำเชิงติดตลกกับเธอว่า "อย่าพยายามทำลายสถิติของนักบินผู้ชาย และอย่าบินตอนกลางคืน" อย่างไรก็ตาม แบตเทนโน้มน้าวให้เขาพาเธอขึ้นเครื่องบินเซาเทิร์นครอสส์ และเธอได้กลายเป็นนักบินที่สร้างสถิติสำคัญต่าง ๆ อีกคนหนึ่ง [33]
เมนูนำทาง
ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด สมิท การบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก ค.ศ. 1928ใกล้เคียง
ชาลส์ ดาร์วิน ชาลส์ ดิกคินส์ ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด สมิท ชาลส์ มาร์ทิเน ชาลส์ ลินด์เบิร์ก ชาลส์ บูเคาว์สกี ชาลส์ ซาวาริน ชาลส์ โบลเดน ชาลส์ เอ็ม. ไรซ์ ชาลส์ สก็อต เชอร์ริงตันแหล่งที่มา
WikiPedia: ชาลส์ คิงส์ฟอร์ด สมิท http://www.naa.gov.au/about-us/publications/fact-s... https://web.archive.org/web/20110809132241/http://... http://visaparaaustralia.com/immigration-to-austra... https://web.archive.org/web/20120425120631/http://... https://web.archive.org/web/20110312041850/https:/... https://www.bdm.qld.gov.au/IndexSearch/queryEntry.... http://nla.gov.au/nla.news-article3645451 https://web.archive.org/web/20220717024804/https:/... http://nla.gov.au/nla.news-article42944512 https://web.archive.org/web/20220717024804/https:/...